โรงเรียนบ้านหนองศาลเจ้า

หมู่ 5 บ้านหนองศาลเจ้า ต.เบิกไพร อ.จอมบึง จ.ราชบุรี 70150

Mon - Fri: 9:00 - 17:30

032 720046

Food (อาหาร) ที่มีโภชนาการสูงสำหรับทานในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ฤดูร้อน

Food (อาหาร) ในปีนี้ไม่ช้าก็เร็ว แม้ว่าจะมีความเย็นของฤดูใบไม้ร่วง แต่ความร้อนในฤดูร้อนก็ยังคงชัดเจนมากในช่วงเกือบทั้งวัน เพราะยังคงอยู่ในช่วงสิ้นสุดของฤดูร้อน ช่วงเวลานี้มีผลกระทบค่อนข้างมากต่อชีวิตประจำวันของเรา ผู้คนมักจะหงุดหงิด โมโหง่าย เบื่ออาหาร ดังนั้นในอาหารของเรา เราก็อาจจะกินผักนึ่งมากขึ้นด้วย ผักนึ่งจะเบากว่าและย่อยง่ายกว่า และในทางกลับกัน ผักนึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าซึ่งสามารถช่วยเสริมสารอาหารทำให้เรามีพลังมากขึ้น

และผ่านฤดูใบไม้ร่วงได้อย่างง่ายดาย วิธีกินผักนึ่งมีทั้งเนื้อและมังสวิรัติ อร่อย ปรุงง่าย โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุและเด็ก อาจจะอยากกินมากขึ้น จานแรก ซี่โครงหมูอบเผือก มีส่วนผสมดังนี้ ซี่โครงหมู 400 กรัม เผือก 200 กรัม หัวหอมสับ กระเทียมและขิงในปริมาณที่เหมาะสม เทมเป้ 1 ช้อน พริกไทยลูกเดือย 1 ช้อน ซอสหอยนางรม 1 ช้อน พริกไทยที่เหมาะสม เกลือเล็กน้อย และน้ำมันปรุง Food (อาหาร) ในปริมาณที่เหมาะสม

Food

ขั้นตอนแรกหั่นซี่โครงเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในน้ำสะอาด เติมน้ำส้มสายชูหมักขาว 1 ช้อนโต๊ะ แช่ไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แช่เลือดลงไป แล้วเปลี่ยนน้ำ 2 ถึง 3 ครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว จากนั้นใส่แป้ง 2 ช้อนโต๊ะ ถูซี่โครงหมูแต่ละซี่อีกครั้ง แล้วล้างออก สะเด็ดน้ำและพักไว้ เตรียมส่วนผสม สับข้าวฟ่างรสเผ็ด 1 ลูก ขิงสับละเอียด สับกระเทียมเป็นกระเทียมสับ และสับต้นหอมสับ ใส่ต้นหอมสับ กระเทียมสับ และลูกเดือยขิง ลงในซี่โครง ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม พริกไทย เกลือ เทมเป้

และหากมีซอสซี่โครง ให้เติมซอสซี่โครง 1 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากัน ต้มน้ำมันร้อน 2 ช้อนโต๊ะ เทลงในซี่โครง ผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักไว้ครึ่งชั่วโมง ล้างเผือกลอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วแช่น้ำสะอาดเก็บไว้เพื่อไม่ให้สีตก เตรียมจานที่ลึกกว่า แปรงน้ำมันสำหรับทำFood (อาหาร) ที่ด้านล่างใส่เผือกที่ก้นจาน จากนั้นวางซี่โครงที่หมักไว้บนเผือก แล้วเทน้ำซุปที่เหลือลงในจาน เติมน้ำลงในหม้อนึ่งให้เพียงพอ ใส่ลงในหม้อนึ่ง ปิดฝา เปิดไฟแรง พอน้ำเดือด

จากนั้นเปิดไฟปานกลางแล้วนึ่งต่อประมาณ 40 นาที หลังจากนึ่งแล้วโรยด้วยต้นหอมสับและพริกไทยลูกเดือยเพื่อตกแต่ง แค่นี้ก็สามารถทานได้แล้ว เมนูต่อมาเป็น ปลาสวายนึ่ง มีส่วนผสมดังนี้ ปลาบัลซ่า 1 ตัว เห็ดเอโนกิ 1 ตัว ซีอิ๊วขาว 2 ช้อน ซอสหอยนางรม 1 ช้อน กระเทียมสับในปริมาณที่เหมาะสม น้ำส้มสายชู 1 ช้อน เกลือเล็กน้อย พริกไทยดำในปริมาณที่เหมาะสม ต้นหอมสับในปริมาณที่เหมาะสม และข้าวฟ่างเผ็ด ขั้นตอนแรก เตรียมปลาสลิดทำความสะอาด

จากนั้นซับน้ำให้แห้ง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆประมาณ 2 เซนติเมตร รูปทรงสี่เหลี่ยม ใส่ปลาสลิดที่หั่นแล้วลงในอ่าง ใส่ซีอิ๊วขาว พริกไทยดำ หมักไว้ครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ส่วนผสมเข้าเนื้อ เห็ดเอโนกิ 1 กำมือ ถ้าชอบกินก็ใส่เพิ่มได้ ตัดรากล้างในน้ำสะอาด แล้วลวกในน้ำเดือด 1 นาที แกะออกแล้วบีบน้ำออก แล้วเกลี่ยให้ทั่วก้นจาน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำซุปล้นระหว่างนึ่ง เตรียมชามใบเล็ก ใส่กระเทียมสับ ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว คนให้เข้ากันแล้วเทเห็ดเข็มทองลงไป

หลังจากหมักปลาสลิดแล้ว ให้วางบนเห็ดเข็มทอง ต้มน้ำในหม้อนึ่งล่วงหน้า เมื่อน้ำเดือดใส่ปลาสลิดลงในจานนึ่งแล้วนึ่งต่อประมาณ 15 นาที สุดท้ายโรยพริกไทยลูกเดือยและต้นหอมสับสำหรับตกแต่ง แน่นอนว่า คนไม่กินเผ็ดสามารถที่จะไม่ใส่ได้แค่นี้ก็พร้อมทานแล้ว เมนูต่อมา นึ่งรากบัวกับโฟมเนื้อ มีส่วนผสมดังนี้ รากบัวขาว 1 ชิ้น หมู 150 กรัม ซีอิ๊วขาวครึ่งช้อน ซอสหอยนางรมครึ่งช้อน พริกไทย ปริมาณที่เหมาะสม ซีอิ๊วปลานึ่ง 1 ช้อน ต้นหอมซอยเล็กน้อย น้ำมันปรุงFood(อาหาร)

ขั้นตอนแรกล้างหมูให้สะอาดก่อน หั่นบนเขียง ใส่ในชาม ใส่ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และพริกไทย คลุกเคล้าให้เข้ากันหมักไว้ครึ่งชั่วโมง เตรียมส่วนของรากบัวขาว ทำความสะอาดลอกผิว แล้วหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 2 มิลลิเมตร ใส่ในน้ำสะอาดเพื่อล้างแป้งบนพื้นผิว ต้มน้ำร้อนในหม้อ หลังจากเดือดใส่รากบัว ลวกประมาณ 1 นาที แล้วเอาออกเพื่อให้ชิ้นรากบัวมีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง เตรียมจาน ทาน้ำมันเล็กน้อยที่ก้นหม้อ ใส่ไส้เนื้อที่รากบัว แล้วจัดใส่จาน จากนั้นใส่หม้อนึ่งลงในหม้อนึ่งและนึ่งเป็นเวลา 10 นาที สุดท้ายนำถาดนึ่งออก เทซีอิ๊วปลานึ่ง 1 ช้อนโต๊ะ โรยด้วยต้นหอมสับและโกจิเบอร์รี่สำหรับตกแต่ง แค่นี้ก็สามารถทานได้แล้ว อร่อยแถมยังมีโภชนาการสูงอีกด้วย

อ่านต่อได้ที่ >>  Lotus root (รากบัว) พร้อมสูตรการนำไปประกอบอาหารเหมาะสำหรับหน้าร้อน