มหาลัยแม่ฟ้าหลวง ตอนที่ 4
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง4 หลังจากตอนที่ 3 ผู้เขียนได้เล่าเรื่องอาหารของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยไปแล้ว บทความนี้เราจะมากล่าวถึงหัวข้อต่อไปกันเลยค่ะ
ตอนที่ 4 โอกาสทางด้านต่างๆ
ตามคำโปรโมทของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่ว่า แม่ฟ้าหลวงคือมหาวิทยาลัยแห่งโอกาสคงไม่ผิดนัก เพราะที่นี่เป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทุนการศึกษาที่มีมากมายหลายประเภท เช่น กยศ. กรอ. ทุนลูกข้าราชการ ทุนเรียนต่างประเทศ อีกทั้งงานพิเศษมากมายที่พร้อมให้นักศึกษาได้ลองทำ อีกทั้งถ้านักศึกษาคนไหนไม่มีเงินซื้อข้าวกินก็ไม่ต้องกลัวอดตาย เพียงแค่คุณไปช่วยงานฝ่ายธุรการแล้วขอคูปองทานอาหารเป็นการตอบแทน คุณก็จะไม่มีวันอดตายแล้ว นอกจากในด้านของทุนทรัพย์แล้ว
แม่ฟ้าหลวงยังมีโครงการดีๆ อย่างการจัดแข่งขันสตาร์ทอัพ การแข่งประกวดต่างๆ อีกทั้งยังมีชมรมมากมายให้นักศึกษาได้เลือกเข้าตามที่ตนเองสนใจ ซึ่งในแต่ละปีจะมีสมาชิกชมรมมาตั้งบู๊ทโปรโมทชมรมพร้อมสิทธิพิเศษจูงใจให้นักศึกษามาเข้าชมรมกันเยอะๆ เช่น ชมรมว่ายน้ำที่สามารถเข้าไปใช้สระว่ายน้ำฟรีได้ ชมรมชาวคริสต์ที่เอาคุกกี้มาแจกพร้อมคำอวยพร ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติที่ชวนกันไปเข้าค่ายสร้างฝายสร้างเขื่อน ชมรมครูดอยที่จะพาเราขึ้นดอยไปสอนหนังสือน้องๆ ชมรมถ่ายรูปซึ่งเป็นที่ต้องการตามงานอีเว้นต์ต่างๆ ชมรมพี่ติวที่เหมาะสำหรับคนที่อยากทบทวนความรู้ของตัวเองและชอบที่จะแบ่งปันความรู้ให้คนอื่น
ยังมีชมรมกีฬาอย่างเคนโด้ มวยไทย ที่จะมีพี่ๆ มาสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับเรา อีกทั้งชมรมที่ทำให้เราได้แสดงความสามารถอย่าง เต้น รำไทย ร้องเพลง มีแม้แต่ชมรมกระตอยและสันทนาการที่จะมาสร้างความบันเทิงและสีสันต่างๆ ให้แก่งานต่างๆ ในมหาวิทยาลัย ยังมีชมรมโกะ หมากรุก เกม และอื่นๆ อีกมากมายละลานตาไปหมด กิจกรรมเหล่านี้ที่ทางมหาวิทยาลัยหรือบรรดานักศึกษาจัดขึ้น เป็นโอกาสในสังคมที่ดีทำให้คุณได้สร้างคอนเนคชั่น ได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ และได้ลองเรียนรู้พัฒนาในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
แม้ว่าผู้เขียนจะแอบไม่ชอบระบบนักเรียนทุนที่พอขอทุนได้แล้ว ทุกครั้งที่จะเอาเงินมาใช้ต้องขออนุญาตหลายฝ่ายก่อน อย่างขั้นตอนแรกคือ คุณต้องทำชั่วโมงบำเพ็ญประโยชน์ให้ครบตามเกณฑ์ การทำชั่วโมงก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นช่วยธุรการเดินส่งเอกสาร ช่วยอาจารย์ทำงาน ทำงานเล็กๆ น้อยๆ ให้ร้านขายของในมหาวิทยาลัย หลังทำชั่วโมงเสร็จแล้วต้องให้คนที่รับเราทำชั่วโมงคือบุคลากรของทางมหาวิทยาลัยเซ็นลงชั่วโมงให้ จากนั้นต้องไปหาอาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งบางท่านก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ อาจารย์ที่ปรึกษาจะเป็นคนเซ็นรับรองการนำชั่วโมงไปเบิกเงินทุนให้เรา
โดยอาจารย์จะมีอำนาจกำหนดว่า เราเบิกได้เท่าไหร่ โดยพิจารณาจากความจำเป็นต้องใช้ของเรา เช่น เอาไปซื้ออะไร สำคัญหรือไม่ ถ้าไม่เหมาะสมจะไม่เซ็น หลังจากได้รับลายเซ็นจากอาจารย์ที่ปรึกษาเราต้องมาทำเอกสารยื่นเรื่องกับพี่ธุรการอีกที แน่นอนว่าเราต้องมาทำเรื่องแบบนี้ทุกเดือนเลยก็ว่าได้ เฉลี่ยแล้วปีการศึกษาหนึ่งนักศึกษาต้องทำชั่วโมงถึง 30 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ และใช่ว่าทุกมหาวิทยาลัยจะมีระบบการทำชั่วโมงก่อนเบิกทุนแบบนี้ ปกติแล้วเมื่ออนุมัติว่าได้ทุนเรามีสิทธิ์เบิกมาใช้ได้เลยเสียด้วยซ้ำ
แม้เรื่องระบบทุนจะเป็นอะไรที่น่าปวดหัว แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง การให้นักศึกษาได้ทำชั่วโมงเช่นนี้ ก็เป็นการฝึกนักศึกษาไปในตัว อีกทั้งยังได้เพื่อนใหม่จากการทำชั่วโมงด้วยกัน ได้รู้จักกับพี่ๆ หลายคน รวมถึงอาจารย์ด้วย ซึ่งบุคคลเหล่านี้อาจกลายเป็นที่พึ่งพาในยามยากของเราได้
ในส่วนของโอกาสหลังจบการศึกษานั้น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงก็ได้มอบให้คุณเช่นกัน ด้วยชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยที่เป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติ รับประกันได้เลยว่าเด็กทุกคนที่จบจากที่นี่ได้ ต้องมีความรู้เรื่องหลักภาษาอังกฤษพอสมควรเพราะข้อสอบจบของแม่ฟ้าหลวงนั้น บางคนบอกว่ายากกว่าโทอิคหรือโทเอลเสียงอีก
5.ระบบเรียน
การเรียนการสอนของแม่ฟ้าหลวงส่วนมากจะถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับอาจารย์ที่สอนด้วยซึ่งอาจารย์แต่ละท่านจะมีเกณฑ์และวิธีการสอนแตกต่างกัน แต่อย่าห่วงไป เพราะผู้เขียนรับประกันได้เลยว่าการสอนของที่นี่ดีกว่าโรงเรียนมัธยมอย่างแน่นอน แทบทุกวิชาของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจะเริ่มสอนคุณจาก 0 และไต่ระดับขึ้นไปจนถึงมาตรฐาน อาจารย์แต่ละท่านจะปรับความรู้ของพวกคุณทุกคนให้เท่ากันก่อนเริ่มสอน เพราะท่านเข้าใจว่านักศึกษาแต่ละคนมาจากหลายสถานที่ ได้รับความรู้มาแตกต่างกัน
ในด้านของความน่าเชื่อถือนั้นแม่ฟ้าหลวงก็ไม่ได้รับอาจารย์ที่ไหนไม่รู้มาสอนกันง่ายๆ ส่วนใหญ่จะจบปริญญาโทในสายนั้นๆ มาแล้ว ฉะนั้นเรื่องอาจารย์สอนไม่รู้เรื่องหายห่วงได้เลย จะมีก็แต่อาจารย์ที่สอนแล้วไม่ใช่แนวของคุณมากกว่า แน่นอนว่าคุณสามารถย้ายตอนเรียนเพื่อเปลี่ยนเวลาและอาจารย์ผู้สอนได้ตามใจ จะมีแค่บางสาขาที่อาจารย์น้อยจริงๆ จนไม่สามารถเปลี่ยนตอนเรียนได้ อย่างสาขานิติศาสตร์ ที่มีวิชาเฉพาะด้านเยอะ อาจารย์แต่ละคนก็สอนได้แค่บางวิชา แถมนักศึกษายังมีจำนวนมาก จนบางเทอมก็ไม่สามารถลงเรียนวิชาที่ต้องการได้ และมักจะมีปัญหากับการแย่งกันลงทะเบียนเพราะพื้นที่ไม่พออยู่เสมอ ถือเป็นความขมขื่นของเด็กนิติศาสตร์ที่ดูจะโชคดีกว่าสาขาอื่นๆ เพราะการเรียนการสอนของสาขานี้เป็นภาษาไทยทั้งหมด
หากพูดถึงสิ่งที่เป็นปัญหาที่สุดของระบบการเรียนแม่ฟ้าหลวง คือ ระบบการลงทะเบียนเรียนที่มักจะล่มเสมอ ไม่เคยเสถียรเลยซักเทอม แม้ว่าแม่ฟ้าหลวงจะมีบุคลากรทางด้านไอทีเก่งๆ มากมาย คาดว่าคงเพราะงบทางด้านไอทีไม่พอหรือบุคลากรด้านไอทีนั้นมีน้อยเกินไป ทุกเทอมนักศึกษาทุกคนต้องอดหลับอดนอนเพื่อมาแย่งกันลงทะเบียนวิชาที่อยากเรียน ทั้งวิชานอกสาขาที่เป็นวิชาบังคับและวิชาในสาขาที่จำเป็นต้องเรียน จำนวนคนที่มาแย่งที่กันก็ไม่ได้มีแค่นักศึกษาในชั้นปีนั้น ๆ แต่ยังมีนักศึกษาตกแผน ที่มาจากชั้นปีอื่นด้วย ผู้เขียนเองก็รู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้อย่างราบรื่น คิดในใจตลอดว่าไม่ยุติธรรมเลย จ่ายค่าเทอมเท่ากัน แต่ทำไมไม่ได้เท่ากันนะ ยิ่งเซ็งจัดตรงที่หากลงทะเบียนไม่สำเร็จต้องมาทำเรื่องกับอาจารย์ที่ปรึกษาต่อแถวคิวยาวแออัด ถ้าใครอยากมาเรียนที่นี่ก็ต้องทำใจไว้เลยว่าจะเจอกับระบบห่วยแตกแบบนี้จนเรียนจบ
จบไปแล้วนะครับ มหาลัยแม่ฟ้าหลวง4 ในตอนต่อไปเราจะมากล่าวถึงสาขาวิชาต่างๆ ที่เปิดสอน ในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่น่าสใจกัน หากใครสนใจสามารถติดตามได้ใน รีวิวมหาลัยแม่ฟ้าหลวง ตอนที่ 5